17 ความต่างของวิธีคิดและการกระทำระหว่าง คนรวย คนจน และชนชั้นกลาง

17 ความต่างของวิธีคิดและการกระทำระหว่าง คนรวย คนจน และชนชั้นกลาง

เรื่องแนวคิดง่ายๆของคนอยากรวย
คุณเคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมคนรวยถึงได้โคตรรวย ทำไมคนจนถึงได้โคตรจน คนธรรมดาแค่พอมีกินมีใช้ แต่ทำไมไม่รวยสักที ทั้งๆที่เราก็ทำงานหามรุ่ง หามค่ำกัน

ปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวลิขิตให้เราประสบความสำเร็จทางด้านการเงินนั้นก็คือ วิธีคิดที่แตกต่างกันเรื่องเงินทอง หรืออาจจะจริงหนอ ลองคิดกันดู สมมุติแล้วกันทำงานมีเงินเก็บเดือนละ 10,000 บาท 1 ปี 120,000 แล้วเงินล้านบาทล่ะ เราต้องใช้เวลาเก็บถึง 10 ปีเลยหรือ ไม่เบื่อเป็นมนุษย์เงินเดือนกันบ้างเหรอไงครับ

วิธีเดียวที่จะช่วยให้เรารวยขึ้นได้ก็คือต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและทัศนคติ ของเราเสียใหม่ เพราะความคิดเดิม ๆ เป็นอุปสรรคต่อความร่ำรวยครับ จากหนังสือ "ถอดรหัสลับ สมองเงินล้าน" หนังสือดี ๆ ที่คนอยากรวยต้องอ่านกัน ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ แต่อยากแนะนำ มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป

12 วิธีวางแผนใช้เงินอย่างฉลาด

12 วิธีวางแผนใช้เงินอย่างฉลาด
1. การวางแผนการเงิน ถือเป็นข้อพึงปฏิบัติแรกที่ทุกคนจะต้องทำ ทั้งวางแผนการเงินของตัวเองและครอบครัวให้เหมาะสม ซึ่งเชื่อมโยงถึงรายได้ รายจ่าย การออม การลงทุน ภาษี การจัดการหนี้สิน และการเตรียมตัวป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
2. จัดงบดุลคุมค่าใช้จ่ายส่วนตัว การจัดงบประมาณหรืองบดุลจะเป็นตัวช่วยควบคุมการใช้เงินไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง โดยเริ่มจาก การรวมตัวเลขรายได้ การรวบรวม/จดบันทึกรายจ่าย การคาดคะเนรายจ่ายในอนาคต การทำสรุปงบประมาณ และ การติดตามการใช้จ่ายและปรับปรุงงบประมาณ

แนวคิดของคนที่รวยเป็นอันดับหนึ่งของโลก

รายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์ เมื่อปี 2007 ขณะนี้ วอร์เรน บัพเฟตต์ ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31,000 ล้านดอลล่าร์

ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา :

มาดูแนวคิดของ คนที่รวยที่สุดในโลก วอเรน บัพเฟตต์ เพราะหุ้นแท้ๆ


จากนิตยสารฟอร์บส์ ประกาศผลการจัดอันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลก โดย บิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ ต้องเสียตำแหน่งคนรวยที่สุดของโลกไป หลังครองตำแหน่งมา 13 ปี ให้กับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชาวอเมริกัน ที่ขึ้นแท่นตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 คนล่าสุด มีสินทรัพย์ 6.2 หมื่นล้านบาท
อันดับสองคือ เจ้าพ่อเทเลคอมชาวเม็กซิกัน คาร์ลอส สลิม เฮลู ผู้มีสินทรัพย์เพิ่มเป็นเท่าตัวภายในเวลาเพียง 2 ปี เป็น 60,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท) ส่วน บิล เกตส์ตกลงมาอยู่อันดับสาม ด้วยสินทรัพย์รวม 58,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์) ซึ่งเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านดอลลาร์ ( 64,000 ล้านบาท) จากปีที่แล้ว

แนวคิดหนังสือเรื่อง...พ่อรวยสอนลูก

หนังสือเรื่อง ..... พ่อรวยสอนลูก
เขียนโดย ..... Robert T. Kiyosaki , Sharon L.Lechter C.P.A. [ ฉบับของต่างประเทศ ]
เขียนโดย ..... "ดร.เป้ง" หรือ "สุวรรณ วลัยเสถียร" [ ฉบับของคนไทย ]
แปลโดย ..... นันทวัน รุจิวงศ์

เนื้อหา ..... เป็นหนังสือที่ให้แนวคิดในการสร้างตัว สร้างชีวิต เพื่อนำพาชีวิตให้หลุดพ้นไปจากสิ่งที่ผู้เขียนเรียกว่า "สนามแข่งหนู" เพื่อไปยังเส้นทางด่วนที่นำไปสู่ความมั่งคั่งและนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน ซึ่งให้ทั้งคำสอนและคำแนะนำเกี่ยวกับความรู้เรื่องการเงิน ซึ่งไม่เคยมีใครสอนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนแม้กระทั่งในโรงเรียน คนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งเป็นเพราะโรงเรียนไม่เคยสอนวิชาการเงิน

แนวคิดรวย 6 ประการ


สวัสดีครับ วันนี้มีแนวคิดรวยมานำเสนอ 6 ประการสั้นๆ กระชับ ได้ใจความ  ถ้านำไปประยุกต์ปรับใช้กับตัวเองหรือองค์กร รับรองรวยแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นครับผม

แนวคิดรวย 6 ประการ มีดังนี้ครับ
1. คนรวยมีความเชื่อว่า "ฉันสร้างสรรค์ชีวิตของฉันด้วยตัวเอง" คนจนมัความเชื่อว่า "ชีวิตของฉันเป็นไปตามชะตาของพรหมลิขิต"
2. คนรวยเล่นเกมส์การเงินเพื่อชัยชนะ คนจนเล่นเกมส์การเงินเพื่อไม่ให้ขาดทุน
3. คนรวยให้สัญญากับตัวเองว่า ฉันต้องรวยให้ได้ในชีวิตนี้ คนจนไม่เคยสัญญากับตัวเอง คิดแต่ว่า ชีวิตนี้จะรวยหรือไม่ช่างมัน
4. คนรวยคิดใหญ่โตเสมอ คนจนคิดเล็กเสมอ
5. คนรวยมองปัญหาเป็นเรื่องเล็ก แก้ไขได้ คนจนมองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่ แก้ไขยาก
6. คนรวยกำหนดจิตคอยมุ่งแสวงหาโอกาสอยู่เสมอ คนจนกำหนดจิตคอยระวังแต่ปัญหา

ที่มา: http://wichuda4share.blogspot.com/2010/08/6.html

วิธีคิดแบบคนรวย ปรับเปลี่ยนแนวคิดให้รวย

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมคนเราที่อุตส่าห์อดออม ขยันทำงานตัวเป็นเกลียว ประหยัดจนเอวคอดเอวกิ่ว และไม่เคยข้องแวะกับความฟุ่มเฟือยใดๆ พอมีเงินก็เอาไปต่อยอดให้ออกดอกออกผล เรียกได้ว่าทำทุกอย่างตามสูตรของการเป็นเศรษฐี พยายามปฏิบัติทุกอย่างตามคัมภีร์แห่งความมั่งคั่ง แต่ท้ายที่สุดนั้นก็ยังไม่ได้เป็นเจ้าของสรรพนามคำว่าเศรษฐีเสียที ทำไม?? และทำไม??? จะมีวิธีไหนได้บ้างที่จะสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเศรษฐีหรือคนรวยได้บ้างไหม หากคุณคิดแบบนี้


ผู้นำแห่งความสำเร็จ (แจ๊ค เวลซ์)

ผู้นำแห่งความสำเร็จ (แจ๊ค เวลซ์)

องค์กรไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถทสิ่งที่ยิ่งใหญ่จนได้รับคำชื่นชมว่ามีความสำเร็จได้ทั้งนั้น ขอเพียงมีองค์ประกอบในการทำงานดี ความสำเร็จก็รออยู่ไม่ไกลองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ ผู้นำต้องดี ถ้ามีผู้นำดี ลูกน้องก็ไม่หลงทาง องค์กรก็ไม่เป๋ จะคิดอะไร จะทำอะไร ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ นี่คือ 10 องค์ประกอบของผู้นำที่ทรงประสิทธิภาพ ที่ทุกองค์กรต้องมองหา

กฎของผู้นำ (แจ๊ค เวลซ์)

กฎของผู้นำ แจ๊ค เวลซ์  

1.ผู้นำไม่ลดละความพยายามที่จะยกระดับคน ใช้ทุกโอกาสในการประเมิน โค้ช และสร้างความมั่นใจให้กับทีม การประเมินครอบคลุมไปถึงการจัดคนให้ตรงกับงาน สนับสนุนเขา โยกย้ายคนที่ไม่เหมาะกับงาน การโค้ชรวมไปถึงการทำทุกวิถีทางที่จะบอกเรื่องผลงานแบบตรงไปตรงมาเพื่อทำให้เขาทำงานได้ดีที่สุด การพัฒนาคนต้องทำทุกวัน ไม่ใช่พูดคุยกันปีละครั้งตอนประเมินผลงาน ให้มองว่าผู้นำคือชาวสวนที่มือขวาถือกระบวยรดน้ำ มือซ้ายถือปุ๋ย บางครั้งก็ต้องถอนต้นไม้ที่ไม่ดีออกไป ส่วนใหญ่แล้วเป็นการเพาะบ่ม แล้วรอคอยการเติบโตของไม้นั้น

คิดอย่างคนรวยถึงจะรวย

ที.ฮาร์ฟ เอเคอร์ เจ้าของงานเขียน ” ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน ”  การคุมเกมสร้างความมั่งคั่ง” เชื่อว่า คนรวยคิดแตกต่างเกี่ยวกับเงิน และแต่ละคนมีแผนการเงินเฉพาะตัว ซึ่งคิดกำหนดขึ้นมาตลอดช่วงชีวิตในการลงทุนเกี่ยวข้องกับเงิน
คิดแบบคนรวย
O คนรวยเชื่อว่าฉันสร้างชีวิตด้วยตัวเอง
พูดให้เข้าใจง่ายคือ คนที่จะรวยได้ต้องเริ่มคิดสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัว เอง ไม่คิดพึ่งพิงคนอื่น สังเกตว่าพวกที่ไม่ได้เป็นเศรษฐี มักคิดแค่ว่า เราช่างโชคดีเหลือเกินที่เกิดมาบนกองเงินกองทองที่พ่ อแม่สร้างไว้ให้ ไม่ต้องทำอะไรก็มีมรดกตกทอดมาจากพ่อแม่เอาไว้ให้ใช้อ ยู่แล้ว ไม่เห็นต้องทำอะไร ก็อยู่ได้ไปชั่วชีวิต