มาดูแนวคิดของ คนที่รวยที่สุดในโลก วอเรน บัพเฟตต์ เพราะหุ้นแท้ๆ


จากนิตยสารฟอร์บส์ ประกาศผลการจัดอันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลก โดย บิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ ต้องเสียตำแหน่งคนรวยที่สุดของโลกไป หลังครองตำแหน่งมา 13 ปี ให้กับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชาวอเมริกัน ที่ขึ้นแท่นตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 คนล่าสุด มีสินทรัพย์ 6.2 หมื่นล้านบาท
อันดับสองคือ เจ้าพ่อเทเลคอมชาวเม็กซิกัน คาร์ลอส สลิม เฮลู ผู้มีสินทรัพย์เพิ่มเป็นเท่าตัวภายในเวลาเพียง 2 ปี เป็น 60,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท) ส่วน บิล เกตส์ตกลงมาอยู่อันดับสาม ด้วยสินทรัพย์รวม 58,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์) ซึ่งเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านดอลลาร์ ( 64,000 ล้านบาท) จากปีที่แล้ว

วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือ วอร์เรน เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ ถือเป็นสุดยอดนักลงทุนมือฉมัง ขณะเดียวกันก็เป็นต้นแบบของมืออาชีพที่ผลตอบแทนการลงทุนต่อปีไม่เคยแพ้ผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาด วิธีการลงทุนของบัฟเฟตต์ไม่ใช่เรื่องลึกลับ รู้กันแพร่หลายว่าเขาเป็นนักลงทุนในหุ้นคุณค่า (Value Investor) หรือหุ้นที่มีคุณค่าของกิจการ หรือมีมูลค่าหุ้นที่แท้จริงสูง
วิธีลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟตต์
วอร์เรน บัฟเฟตต์ มองการลงทุนในหลักทรัพย์เหมือนการลงทุนทำธุรกิจ และธุรกิจที่วอร์เรนสนใจก็คือ ธุรกิจที่สร้างผลกำไรมากกว่าปกติด้วยแฟรนไชส์ที่ผู้บริโภคนิยม เช่น โค้ก มีดโกนยิลเลตต์ หรือไม่ก็วอชิงตันโพสต์ ธุรกิจที่วอร์เรนไม่สนใจเลย คือธุรกิจที่เขาไม่เข้าใจ เช่น คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ หากไม่รู้ว่าอีก 5 ปี ธุรกิจจะไปทางไหน เป็นอันเลิกพูด เขาเป็นนักลงทุนที่มีปรัชญาและความคิดค่อนข้างสุดโต่ง หากเชื่อว่าหุ้นที่เขาลงทุนนั้นมีคุณภาพสูง เขาก็จะถือหุ้นนั้นจนตาย
วอร์เรนเคยพูดว่า ไม่สนใจภาวะตลาดหุ้นหรือภาวะเศรษฐกิจเลย หากตลาดหุ้นจะปิดไปสัก 5 ปี เขาก็ไม่เดือดร้อน เพราะตลาดหุ้นที่เปิดอยู่ในความคิดของเขา คือโอกาสที่เขาจะซื้อหุ้นดีราคาถูกเมื่อนักลงทุนตกใจเทขายหุ้นดีๆ ทิ้ง นี่อาจเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยมีจอคอมพิวเตอร์ไว้ดูราคาหุ้นนาทีต่อนาทีแบบที่นักลงทุนทั้งหลายชอบทำกัน
ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ที่บัฟเฟตต์ลงทุนในหุ้น เขาลงทุนในหุ้นจำนวนไม่มากนัก แต่หุ้นที่บัฟเฟตต์ลงทุนจะลงทุนในสัดส่วนที่สูงมาก และเมื่อลงทุนแล้วก็จะไม่ค่อยขายออก เขาไม่เข้าบริหารกิจการโดยตรง แต่จะนั่งในเก้าอี้กรรมการบริษัทคนหนึ่งเท่านั้น ทำหน้าที่ตัดสินใจลงทุนเรื่องใหญ่ๆ ของบริษัท
คิดจะรวยแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ยาก เริ่มต้นจากพื้นฐานคือออมแล้วลงทุน สำคัญคือลงทุนต้องถูกวิธี รวมทั้งต้องมีเวลาลงทุนที่ยาวนานพอและลงทุนอย่างต่อเนื่อง อย่าออกจากตลาดถ้าไม่จำเป็น นั่นหมายถึงการใช้เงินต่อเงินไปเรื่อยๆ คิดอย่างเศรษฐีก็เป็นเศรษฐี วอร์เรน บัฟเฟตต์ – เรียนรู้จากชีวิตเขา
ในส่วนของประเทศไทยซึ่งติดอันดับ 3 คนนั้น ได้แก่ นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อกระทิงแดง รวยที่สุด โดย อยู่ในอันดับที่ 260 ของโลก ด้วยมูลค่า ทรัพย์สิน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 126,000 ล้านบาท รองลงมาคือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง รวยสุดเป็นอันดับที่ 307 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 110,000 ล้านบาท และ นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี รวยสุดเป็น อันดับที่ 897 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 41,000 ล้านบาท.


ที่มา: http://thaiforexschool.com

1 ความคิดเห็น:

อิคิวซัง กล่าวว่า...

ขอบคุณที่หามาหั้ยอ่าน มีประโยชน์จิงๆ

แสดงความคิดเห็น