คุณคือ คนจน หรือ คนรวย ?

ถ้าวันนี้ครอบครัวของคุณ ติดหนี้ธนาคาร 1 ล้านบาท โดยมีกำหนดการชำระหนี้คืนหลังจากนี้อีก 1 ปี โดยที่คุณคิดว่า คุณไม่มีทางทำงานหาเงินมาใช้หนี้ทันแน่นอน แต่ผ่านไป 1 สัปดาห์ปรากฎว่าคุณรับรางวัลจากเกมโชว์แห่งหนึ่งที่คุณใช้ความรู้ความสามารถ ของคุณเองในการตอบคำถาม และเงินรางวัลนั้นมีจำนวน 1 ล้านบาทเท่ากับจำนวนหนี้พอดี
ถามว่า คุณจะนำเงิน 1 ล้านบาทนี้ไปใช้หนี้กับธนาคารทันทีเลยหรือเปล่าครับ?

ถ้าคำตอบของคุณ คือ “ใช่ ฉันจะรีบนำเงินไปใช้หนี้กับธนาคารทันทีเลย” ผมถือว่า คำตอบของคุณยังเป็นเหมือนคนทั่วไปอยู่ครับ เพราะอะไร? ลองอ่านคำถามอีกครั้งสิครับ…
คุณจะพบว่าเงื่อนไขของธนาคารคือ ให้เวลาคุณชำระหนี้หลังจากนี้อีก 1 ปี และนี่พึ่งผ่านไปแค่ 1 อาทิตย์เองหลังจากที่คุณได้รางวัล ฉะนั้นคุณมีเวลาถึง 11 เดือนกับอีก 3 อาทิตย์โดยประมาณที่คุณจะทำอะไรก็ได้กับเงินนั้น โอ้!!! อย่าเข้าใจผิดนะครับ ที่ผมพูดอย่างนี้ ไม่ได้ให้คุณเอาเงินไปซื้อของที่คุณอยากได้ หรือเอาเงินไปผลาญจนหมดนะครับ ผมหมายความว่า คุณมีเวลาอีกเกือบปีที่จะทำให้เงิน 1 ล้านมันทวีคูณเป็น 2 เท่า 3 เท่า ถ้าคุณรู้จักวิธี…

ง่ายที่สุดก็คือ ฝากธนาคารแบบประจำ ก็อาจจะได้ดอกเบื้ยกลับมานิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าเอาเงินไปใช้หนี้ทันที และสุดท้ายก็กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้อะไรเลย แต่ยังมีวิธีที่ดีกว่านี้ แต่มันขึ้นอยู่กับตัวคุณว่า ยอมรับความเสี่ยงได้ขนาดไหน
เชื่อไหม ครับว่า เงิน 1 ล้าน ถ้าอยู่ในมือของคนรวยใน 1 ปี เขาจะสามารถเพิ่มมูลค่ามันเป็น 2 ล้าน 3 ล้านได้ เช่น ลงทุนอสังหาฯ หรือหุ้น เพราะพวกเขารู้วิธี แต่คุณอาจจะถามว่า อ้าว!!! แล้วยังงี้มันไม่เสี่ยงไปเหรอ ถ้าขาดทุนแล้วจะเอาที่ไหนไปใช้หนี้ล่ะ… ผมก็ขอบอกเลยครับว่า “มันเสี่ยงแน่นอน” แต่มันเสี่ยงเนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่รู้วิธี ความเสี่ยงจะลดลงเมื่อเราเริ่มเรียนรู้วิธี และกระบวนการคิดแบบคนรวย
จริงๆ คำถามนี้ก็เปรียบกับลูกจ้างทั่วไปที่รับเงินเดือนมา 30,000 บาท คนจนก็จะหมดเงินไปกับ iphone 4, BB. รถโตโยต้า คอนโดฯ ที่ดูเหมือนทำให้เขารวยและดูดีในสังคม แต่เบื้องหลังเป็นหนี้บัตรเครดิตมากมาย แต่คนรวยจะเพิ่มทรัพย์สินที่เป็นช่องทางการทำเงิน 30,000 บาทให้ทวีคูณ 2-3 เท่า จนเขามีอิสระภาพทางการเงินทุกอย่างในภายหลังโดยไม่เป็นทาสบัตรเครดิต

จริงๆ ปัจจุบันมีโอกาสในการเป็นอิสรภาพทางการเงินมากมายให้ศึกษา ทั้งเรื่องการลงทุนในหุ้น หรือการทำธุรกิจต่างๆ ทั้งแฟรนไชส์ เช่น 7-Eleven ที่เหมาะสมกับคนทุนหนา หรือธุรกิจเครือข่าย เหมาะกับคนทุนน้อยหรือมีเวลาไม่มาก หนำซ้ำบางธุรกิจยังเปิดให้ทำบนอินเทอร์เนตทั้งหมดโดยไม่ต้องเดินทางด้วย

แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองแล้ว ว่าเราอยากใช้ชีวิตแบบไหน อยากมีอิสรภาพทางการเงินหรืออยากมีทุกอย่างแต่ใช้หนี้บัตรเครดิตเกือบทั้งชีวิต เราสามารถเลือกที่เปลี่ยนแนวคิดของเราเองได้ เอามาแบ่งปัน เพราะอยากให้คนไทยเลิกเป็นหนี้บัตรเครดิตเสียที… เดี๋ยวนี้มีชมรมหนี้บัตรเครดิตแล้วนะ


ที่มา: speedytalk  บทความน่ารู้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น